มหานครแห่งเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรมทางใต้ของจีน

ในอดีต กว่างโจวเคยเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมทางทะเล และเป็นเมืองท่าเสรีแห่งแรกที่เปิดต้อนรับชาวตะวันตกเข้ามาค้าขายกับจีน ซึ่งทำให้เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าระหว่างประเทศมาตั้งแต่ยุคโบราณ

กว่างโจวเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งยังเป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษที่สำคัญของจีน ได้แก่ เซินเจิ้น จูไห่ และซัวเถา โดยเฉพาะเซินเจิ้นที่กลายเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมระดับโลกในปัจจุบัน

แม้จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แต่กว่างโจวยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเอาไว้ได้อย่างกลมกลืน หนึ่งในนั้นคือสำเนียงท้องถิ่นที่เรียกว่า "สำเนียงกว่างโจว" หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "ภาษากวางตุ้ง" ซึ่งเป็นภาษาพื้นถิ่นของชาวฮ่องกงและมาเก๊า และยังถือเป็นหนึ่งในภาษาถิ่นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในจีน

เมืองนี้ยังมีระบบคมนาคมที่ทันสมัย โดยเฉพาะเครือข่ายรถไฟใต้ดินที่ครอบคลุมพื้นที่หลักทั้งหมด ทำให้การเดินทางภายในเมืองสะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะมาเพื่อท่องเที่ยว ชมงานแฟร์ หรือศึกษาดูงานก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น ที่สำคัญคือวิถีชีวิตและอาหารการกินของกว่างโจวมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทย จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยรู้สึกคุ้นเคยและปรับตัวได้ง่าย

เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองใหญ่ทางตอนเหนือของจีนอย่างปักกิ่งหรือซีอาน ที่มีบรรยากาศเป็นทางการและเต็มไปด้วยระบบราชการ กว่างโจวกลับให้ความรู้สึกคึกคัก เต็มไปด้วยจังหวะชีวิตแห่งการค้าและการใช้ชีวิตแบบเมืองท่า

กว่างโจวมีภูมิอากาศอบอุ่นตลอดปี ฤดูหนาวไม่หนาวจัด และฤดูร้อนไม่ร้อนเกินไป เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ที่บานสะพรั่งตลอดทั้งสี่ฤดู สมฉายา “เมืองแห่งดอกไม้” ผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันร่มรื่น และจุดชมวิวที่สวยงามหลากหลายทั่วเมือง

เวลาท้องถิ่นของกว่างโจวจะเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง นักเดินทางควรปรับเวลานาฬิกาให้ตรงเมื่อเดินทางถึง เพื่อความสะดวกในการนัดหมายและวางแผนกิจกรรมต่าง ๆ